สำหรับใครที่เป็นสายเที่ยว สายออกทริปกับพาหนะคู่ใจอย่างบิ๊กไบค์ คงต้องสนใจการซื้อประกันอยู่แล้วเป็นแน่ เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและมีประโยชน์ในหลายด้าน แต่ใช่ว่ามีความต้องการซื้อก็สามารถเลือกซื้อได้เลย เพราะคุณจำเป็นต้องรู้ถึงสิ่งที่ควรรู้เสียก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อจะตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของงบประมาณ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และความคุ้มครอง
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อประกันบิ๊กไบค์
แน่นอนว่าการทำประกันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก่อนจะตัดสินใจทำ ก็จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนั้นเราจึงมีสิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อประกันบิ๊กไบค์ ดังต่อไปนี้
1. ประเภทของประกันบิ๊กไบค์
มีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่
ประกันบิ๊กไบค์ชั้น 1
- คุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี
- รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย ทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองทุกการชน การลื่นไถล รถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ
- คุ้มครองอุบัติเหตุ ไม่มีคู่กรณี
- ราคาสูงที่สุด เมื่อเทียบกับประกันประเภทอื่น
ประกันบิ๊กไบค์ชั้น 2+
- คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี
- รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั้งแต่ทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย
- คุ้มครองทุกการชน การลื่นไถล รถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ
- คุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
- จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน สำหรับมอเตอร์ไซค์คันที่เอาประกัน
- ราคาประหยัดกว่าประกันชั้น 1
ประกันบิ๊กไบค์ชั้น 3+
- คุ้มครองเฉพาะการชนแบบมีคู่กรณี ไม่คุ้มครองลื่นล้มเอง การชนไม่มีคู่กรณี และรถหาย
- คุ้มครองค่าเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและค่ารักษาพยาบาลบุคคลภายนอก ทั้งรถเราและคู่กรณี มีค่า Deductible 10,000 – 50,000 บาท
2. เลือกประกันบิ๊กไบค์ให้สอดคล้องกับขนาดตัวถัง
เบี้ยประกันบิ๊กไบค์จะสูงขึ้นตามกำลังของเครื่องยนต์ และขนาดเครื่องยนต์ที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อจึงต้องพิจารณาให้สอดคล้องกัน ทั้งขนาดตัวถัง งบประมาณ และความคุ้มครอง แต่หากถามความคิดเห็น การเลือกประกันชั้น 1 จะเป็นการคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด
3. พฤติกรรมการใช้งาน
หากพบว่าต้องขับบิ๊กไบค์ทุกวันหรือมีการออกทริปเดินทางไกลต่างจังหวัดนาน ๆ ครั้ง ประกันที่ควรเลือกควรเป็นประกันชั้น 1 แต่หากจอดทิ้งไว้หรือมีเหตุให้ต้องใช้ไม่บ่อยนัก ควรเลือกประกันชั้น 2 หรือ 2+ จะคุ้มค่ากว่า
4. ความคุ้มค่าของประโยชน์ที่ได้รับ
ประกันบิ๊กไบค์จะมีสิทธิประโยชน์ทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
- ค่าเสียหายส่วนแรก Deductible เป็นค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้บริษัทประกันก่อนเคลม
- ทุนประกัน ค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากบริษัทประกัน
- ความคุ้มครอง เงื่อนไขการดูแลค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันต้องรับผิดชอบ โดยมี 2 ประเภท คือ ความคุ้มครองหลัก คุ้มครองค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และความคุ้มครองเสริม เช่น คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล การคุ้มครองในการต่อสู้คดี เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแม้คุณจะมีความต้องการอยากทำประกันบิ๊กไบค์ แต่เนื่องด้วยพฤติกรรมการใช้งาน ขนาดของตัวถัง รวมไปถึงงบประมาณที่มีอยู่อาจกลายเป็นปัจจัยกำหนดราคาประกันหรือประเภทของประกันที่คุณควรจะซื้อ ดังนั้นจึงอยากให้ใส่ใจรายละเอียดในเรื่องนี้ให้มากขึ้นก่อนตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้ประกันที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด